นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้มาติดต่อ

1. บทนำ

บริษัท ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) จำกัด (มหาชน)(“บริษัทฯ”) ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) (“พระราชบัญญัติฯ”) จึงได้จัดทำและเผยแพร่นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ (“นโยบาย”) ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในฐานะที่ท่านเป็นผู้มาติดต่อของบริษัทฯ ทั้งที่เป็นผู้มาเยือน (รวมเรียกว่า “ท่าน”) ในนโยบายฉบับนี้ ยังได้แจ้งวิธีการในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและแนวทางในการจัดการข้อมูลของท่านด้วยวิธีการที่เหมาะสมตามพระราชบัญญัติฯ

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย

ข้อมูลส่วนบุคคล”  หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาที่สามารถระบุตัวบุคคลได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ตามที่ระบุด้านล่างนี้

ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายจัดให้เป็นเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน

“ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ     เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาที่เป็นผู้เข้ามาติดต่อ (ตามที่ระบุในข้อ 2.1) เก็บรวบรวม โดยการเก็บรวบรวมดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทฯ กับท่าน โดยประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

2.1. ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เข้ามาติดต่อ

เมื่อท่านเป็นบุคคลทั่วไป ที่เข้ามาบริเวณพื้นที่ของเรา เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลดังนี้

  1. ข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เมื่อท่านเข้าในบริเวณพื้นที่ของเรา มีการเก็บภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (“กล้อง CCTV”) ของเรา ทั้งนี้ เราไม่ได้เก็บข้อมูลเสียงผ่านทางกล้อง CCTV อย่างไรก็ดีเราจะติดป้ายให้ทราบว่ามีการใช้กล้อง CCTV ในบริเวณพื้นที่ของเรา โปรดดูรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของบริษัทฯ ได้ใน “นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการใช้กล้องโทรทัศน์วงจรปิด” ได้ที่ https://tpic.co.th/privacy-cctv/ 

  2. ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ ข้อมูลตามบัตรประจำประชาชน (เช่น หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร หมายเลขบัตรประชารัฐ)

  3. ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น ที่อยู่ สถานที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร และ/หรืออีเมล หมายเลขทะเบียนพาหนะ

ทั้งนี้ หากบริษัทฯ ไม่สามารถเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามที่บริษัทฯ ได้แจ้งไว้ในนโยบายฉบับนี้ บริษัทฯ อาจไม่สามารถเข้าบริเวณพื้นที่บริษัทฯ เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา ดำเนินการตามความสัมพันธ์ที่บริษัทฯ มีกับท่าน หรือปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดต่อไปได้

2.2. ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เข้ามาติดต่อ

ได้แก่ ข้อมูลสุขภาพ (เช่น อุณหภูมิร่างกาย ความดันโลหิต ข้อมูลตามแบบสำรวจคัดกรองโรคติดต่อ ข้อมูลสุขภาพทั่วไป) เพื่อการคัดกรองการเข้าพื้นที่ภายในบริษัท

3. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการที่ท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัทฯ โดยตรงบริษัทฯ ได้รับมาจากขั้นตอนการแลกบัตรเพื่อบันทึกผู้มาติดต่อ การกรอกข้อมูลและให้ข้อมูลแก่บริษัทฯ ในใบอนุญาตผ่าน(เข้า-ออก)บริษัทฯ ใบขออนุญาตทำงานในพื้นที่ ใบขออนุญาตทำงานที่ก่อให้เกิดประกายไฟ ตามที่บริษัทฯ กำหนด

4. การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ฐานทางกฎหมาย

บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่นที่ไม่ใช่ความยินยอม (เช่น (1) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา สำหรับการเข้าทำสัญญาหรือการปฏิบัติตามสัญญากับท่าน (2) เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย (3) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลภายนอก โดยมีความสมดุลกับประโยชน์และสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (4) เพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล (5) เพื่อประโยชน์สาธารณะ สำหรับการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ (6) เพื่อการก่อตั้งและยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายในอนาคต หรือฐานทางกฎหมายอื่น ๆ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาต (แล้วแต่กรณี)) เพื่อวัตถุประสงค์ ดังนี้

4.1 เพื่อการพิสูจน์และยืนยันตัวตน เช่น เพื่อการตรวจสอบ และยืนยันตัวบุคคลในการเข้า-ออกบริษัทฯ

4.2 เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทฯ เช่น การกำกับการตรวจสอบ และบริหารจัดการภายในองค์กรของบริษัทฯ เพื่อป้องกันและตรวจสอบการดำเนินการต่าง ๆ ที่เป็นการกระทำผิดทางอาญา หรือการกระทำอื่นใดที่มิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อการสืบสวน สอบสวน หรือเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเป็นพยานหลักฐานในการพิสูจน์ในกระบวนการทางกฎหมายของบริษัทฯ เพื่อรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารหรือสถานที่ของบริษัทฯ รวมถึงการแลกบัตรก่อนเข้าพื้นที่บริษัทฯ การบันทึกภาพด้วยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV)

4.3 เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามข้อกำหนดตามกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงเพื่อเปิดเผย

4.4 เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายที่อาจเกิดต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล เช่น การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน การควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ

4.5 เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของเรา หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้

5. การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่อาศัยความยินยอมจากท่าน

บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานความยินยอม เพื่อวัตถุประสงค์ดังนี้

5.1  เพื่อคัดกรองโรค รวมถึงประเมินถึงความเสี่ยงในการเป็นโรคติดต่อ ก่อนที่จะเข้าพื้นที่บริษัทฯ และก่อนการดำเนินการที่ต้องขออนุญาตและ/หรือ
ปฏิบัติตามขั้นตอนของบริษัทฯ

6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่หน่วยงานราชการ หรือหน่วยงานอื่นใดตามกฎหมาย หรือเปิดเผยข้อมูลตามคำสั่งของหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแลใด ๆ

บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ให้บริการ พันธมิตรทางธุรกิจ คู่ค้า คู่สัญญาของบริษัทฯ เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการตรวจสอบบัญชี การขอคำปรึกษาทางกฎหมาย และการดำเนินคดี และการดำเนินการอื่นใดที่จำเป็นต่อการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องเพียงเท่าที่จำเป็นสำหรับการให้บริการดังกล่าวเท่านั้น และจะขอให้บุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นแต่อย่างใด บริษัทฯ จะดำเนินการให้มั่นใจว่าบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องที่บริษัทฯ ทำงานด้วยทั้งหมดจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลอย่างปลอดภัย

บริษัทฯ อาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ฐานทางกฎหมายตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ให้แก่บุคคลภายนอกอื่น ๆ เช่น บุคคลทั่วไป ผู้ร้องเรียนหรือบุคคลภายนอกที่ร้องขอดูข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เป็นต้น แล้วแต่กรณี

7. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ

บริษัทฯ อาจเปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลภายนอกหรือหรือเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ในต่างประเทศซึ่งประเทศปลายทางอาจมี หรืออาจไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เท่าเทียมกัน ทั้งนี้ บริษัทฯ จะดำเนินการตามขั้นตอนและมาตรการต่าง ๆ เพื่อทำให้มั่นใจว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกโอนอย่างปลอดภัยและบุคคลที่รับโอนข้อมูลนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และการโอนข้อมูลส่วนบุคคลนั้นชอบด้วยกฎหมายตามที่กฎหมายอนุญาตเท่านั้น

8. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ระยะเวลา และมาตรการในการรักษาความปลอดภัย

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตราบเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ โดยบริษัทฯ พิจารณาระยะเวลาที่เหมาะสมในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากระยะเวลาการซื้อขาย การให้บริการ การทำสัญญา และอายุความตามกฎหมาย รวมถึงอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือตามอายุความ

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ในรูปแบบของเอกสารและ/หรือด้วยระบบคอมพิวเตอร์หรือระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยจัดให้มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม ทั้งมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (Administrative Safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (Technical Safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (Physical Safeguard) ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล (Access Control) รวมถึงการปรับปรุงแก้ไขมาตรการต่าง ๆ ตามสมควร เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบหรือกระทำโดยปราศจากอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อการละเมิดการธำรงไว้ซึ่งความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability)

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทฯ มีการจำกัดการเข้าถึงและใช้เทคโนโลยีในการรักษาความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยได้กำหนดการอนุญาตหรือสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล มีการบริหารจัดการการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งาน (User Access Management) เฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตแล้วให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ใช้งาน (User Responsibilities) เพื่อป้องกันมิให้มีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต การเปิดเผย การล่วงรู้ หรือการลักลอบทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือการลักขโมยอุปกรณ์จัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงจัดให้มีวิธีการเพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เกี่ยวกับการเข้าถึง เปลี่ยนแปลง ลบ หรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล และเมื่อมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกที่ดำเนินการประมวลผลหรือแก่ผู้ประมวลผลข้อมูล บริษัทฯ จะดำเนินการกำกับดูแลให้บุคคลนั้นดำเนินการอย่างเหมาะสมให้เป็นไปตามคำสั่งของบริษัทฯ

บริษัทฯ จะดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันสิ้นสุดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

9. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิเพิกถอนความยินยอมที่ท่านได้ไว้กับบริษัทฯ เมื่อใดก็ได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดตามกฎหมาย หรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ทั้งนี้ การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ ไว้ก่อนหน้าโดยชอบด้วยกฎหมาย

ท่านมีสิทธิในการขอเข้าถึงหรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน มีสิทธิในการขอโอนย้ายข้อมูลของท่านในรูปแบบที่บริษัทฯ มีการจัดระเบียบไว้แล้ว และสามารถอ่านได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และมีสิทธิขอให้ส่งข้อมูลไปยังบุคคลอื่นตามที่ท่านมีความประสงค์ (บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการเรียกเก็บค่าใช้จ่าย โดยจะกำหนดค่าใช้จ่ายตามความเป็นจริงอย่างเหมาะสม (ถ้ามี))

ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลกรณีที่กฎหมายกำหนด มีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ด้วยวิธีการใด ๆ และสิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่จะมีข้อจำกัดตามกฎหมาย

บริษัทฯ พยายามอย่างเต็มที่ในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันของท่าน เพื่อให้เป็นข้อมูลที่มีความสมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ทั้งนี้ ท่านมีสิทธิในการขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เมื่อท่านมีการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากเห็นว่าข้อมูลที่บริษัทฯ มีอยู่ไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือไม่เป็นปัจจุบัน

ทั้งนี้ การใช้สิทธิของท่านตามที่ระบุไว้ข้างต้นต้องเป็นไปตามกฎหมายและบริษัทฯ อาจปฏิเสธการใช้สิทธิของท่านข้างต้นได้ตามข้อจำกัดที่กฎหมายกำหนด

ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติฯ  หากบริษัทฯ หรือบุคคลอื่นซึ่งดำเนินการแทนบริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมิได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติฯ ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ใคร่ขอให้ท่านโปรดแจ้งให้บริษัทฯ ทราบถึงข้อกังวลของท่าน เพื่อดำเนินการแก้ไขข้อกังวลดังกล่าว ก่อนที่ท่านจะติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ในการยื่นคำร้องขอใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO) หรือผู้ที่มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบข้อมูลส่วนบุคคล ตามช่องทางติดต่อที่ระบุไว้นโยบายฉบับนี้

10. คุกกี้ (Cookies)

เมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ บริษัทฯ อาจวางคุกกี้ไว้ในอุปกรณ์ของท่านและใช้คุกกี้เหล่านั้น เพื่อรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ในนโยบายคุกกี้ของบริษัทฯ https://tpic.co.th/cookies-policy

11. การเปลี่ยนแปลงนโยบาย

บริษัทฯ มีการพิจารณาทบทวนและอาจปรับปรุงแก้ไขนโยบายฉบับนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและเป็นไปตามกฎหมาย ทั้งนี้ หากมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไข บริษัทฯ จะประชาสัมพันธ์ให้ท่านทราบผ่านทางช่องทางที่เหมาะสม เช่น ประกาศในเว็บไซต์ของบริษัทฯ เป็นต้น กรุณาตรวจสอบนโยบายฉบับนี้เป็นระยะเพื่อตรวจดูการแก้ไขหรือปรับปรุงนโยบาย โดยบริษัทฯ จะแจ้งเตือนให้ท่านทราบ หากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อท่าน และขอความยินยอมจากท่านอีกครั้งในกรณีที่จำเป็น และตามที่กฎหมายกำหนด

12.ช่องทางการติดต่อ

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

ชื่อ   : บริษัท ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) จำกัด (มหาชน)

สถานที่ติดต่อ  : 53/1 หมู่ 4 ถนนกาญจนาภิเษก ตำบลบางแม่นาง อำเภอบางใหญ่ นนทบุรี 11140

ช่องทางการติดต่อ e-mail   : dpoofficial@tpic.co.th

Tel. : 02-191-8288